คู่มือหม้อน้ำรถยนต์ฉบับสมบูรณ์

โดย บริษัท โชคนำชัยอะไหล่ยนต์ 789 จำกัด ผู้จำหน่าย หม้อน้ำรถยนต์ 555DAIKI

คำถามทั่วไปเกี่ยวกับหม้อน้ำรถยนต์

หม้อน้ำรถยนต์คืออะไร?

หากเปรียบเทียบหลักการทำงานให้เข้าใจง่ายๆให้เห็นภาพ ให้นึกถึงโจ้กในชามร้อนๆ ซึ่งเปรียบเหมือนเครื่องยนต์ แล้วเราตักใส่ช้อน เปรียบเหมือนหม้อน้ำรถยนต์ แล้วจากนั้นก็ใช้ลมเป่า ซึ่งอาจจะเป่าด้วยปาก หรือลมจากธรรมชาติก็ได้ แล้วนำโจ้กที่เป่ากลับไปวางไว้ในชามเหมือนเดิม ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ อุณหภูมิของโจ้กทั้งชามก็จะเย็นลงนั้นเอง หากอธิบายให้ละเอียดขึ้นคือ หม้อน้ำรถยนต์เป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบระบายความร้อนของรถยนต์ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายเทความร้อนจากเครื่องยนต์ไปสู่ภายนอก โดยอาศัยการใช้น้ำหล่อเย็นที่จะไหลผ่านหม้อน้ำเพื่อรับความร้อนจากเครื่องยนต์ จากนั้นหม้อน้ำจะระบายความร้อนออกด้วยการช่วยของพัดลมหรือการไหลของอากาศจากหน้ารถเมื่อเวลารถวิ่ง ก็จะมีลมตีเข้ามาจากกันชนด้านหน้า การทำงานนี้ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อนเกินไปจนเกิดความเสียหายหรือประสิทธิภาพการทำงานลดลง

สิ่งที่ลูกค้าเข้าใจผิดบ่อยๆเรื่องหม้อน้ำ คือ เรื่องขนาดของหม้อน้ำ.... ใหญ่กว่า ดีกว่า จริงไหม ?

หม้อน้ำ... ใหญ่กว่า ดีกว่า จริงไหม ?

สิ่งที่ลูกค้าเข้าใจผิดบ่อยๆกับหม้อน้ำ คือ เรื่องขนาดของหม้อน้ำที่ว่า ยิ่งหม้อน้ำหนา ก็ยิ่งระบายความร้อนได้ดี เรื่องนี้ไม่จริงเสมอไป หากเราลองย้อนกลับไปมองภาพ โจ้กในชาม ถ้าเราอยากให้มันเย็นเร็วๆ เราก็ตักใส่ช้อนใหญ่ๆแล้วเป่ามันสิ คำตอบคือ ใช่ ! มันเย็นเร็วขึ้นได้ แต่...แต่.... เราก็จะต้องเป่าลมให้แรงขึ้นกว่าเดิม ใช้ปริมาณลมเยอะกว่าเดิม (เทียบกับช้อนเล็กๆ) สาเหตุเพราะยิ่งช้อนใหญ่ ความร้อนสะสมก็ยิ่งมีมากนั้นเอง หลักการนี้คือหลักการเดียวกันกับในรถยนต์ ถ้าเราเปลี่ยนหม้อน้ำหนาขึ้น แล้วมอเตอร์พัดลมเราแรงขึ้นไหม หรือ หมุนแรงพอที่จะระบายความร้อนสะสมที่มากขึ้นหรือไม่ ? คำตอบคือแรงไม่พอ เนื่องจากวิศวกรของผู้ผลิตรถยนต์ นั้นได้ออกแบบกำลังมอเตอร์ให้เหมาะสมกับความหนาของหม้อน้ำแล้ว ถ้าเราไปเปลี่ยนความหนาหม้อน้ำ แต่มอเตอร์พัดลมหม้อน้ำ กำลังเท่าเดิม... ตอนรถติดไม่มีลมธรรมชาติช่วย ระบบหม้อน้ำ อาจระบายความร้อนไม่ทันก็เป็นไปได้

• หม้อน้ำมีความสำคัญในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์อย่างไร ?

  อย่างที่ได้ยกตัวอย่างด้านบน ระบบระบายความร้อนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยรักษาความสมดุลของอุณหภูมิในเครื่องยนต์ หากไม่มีหม้อน้ำที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เครื่องยนต์อาจเกิดความร้อนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดเดือดของน้ำหล่อเย็น ส่งผลให้เกิดการเสียหายต่อชิ้นส่วนภายในระเบิดหรือเครื่องยนต์พังได้ หม้อน้ำจึงเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในการป้องกันปัญหาเครื่องยนต์ร้อนจัดและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

การทำงานของหม้อน้ำรถยนต์

ส่วนประกอบของหม้อน้ำรถยนต์

• คอเติมน้ำ : สำหรับใช้เติมน้ำยาหม้อน้ำ หรือน้ำยาหล่อเย็น
• รูท่อน้ำเข้า : ท่อลำเรียงน้ำยาหล่อเย็นจากเครื่องยนต์ (ท่อน้ำร้อน)
• ฝาบน : ฝาประกบแผงรังผึ้งหม้อน้ำด้านบน
• ฝาล่าง: ฝาประกบแผงรังผึ้งหม้อน้ำด้านล่าง
• ท่อลำเลียง: ลำเรียงน้ำยาหม้อน้ำ จากบนลงล่าง
• รางอลูมิเนียม: ใช้เป็นกรอบให้แผงรึ้งผึ้งตั้งตรง และคงรูป
• แผงรังผึ้ง: แผงอลูมิเนียมช่วยกระจายความร้อนจากท่อลำเลียง
• รูท่อน้ำออก: ท่อลำเรียงน้ำยาหล่อเย็นจากเครื่องยนต์ (ท่อน้ำเย็น)
• รูถ่ายน้ำยา: ใช้ปล่อยน้ำยาหล่อเย็นออกนอกระบบ
• ท่อออย (ในรถเกียร์ออโต้): ช่องน้ำมันเกียร์ในรถเกียร์ AT

พื้นฐานของระบบระบายความร้อน

ระบบระบายความร้อนในรถยนต์เป็นระบบหมุนเวียน (ระบบปิด) ที่ทำให้การควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุด มีการใช้น้ำหล่อเย็นเป็นตัวนำความร้อน ไหลเวียนระหว่างเครื่องยนต์และหม้อน้ำ เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน น้ำหล่อเย็นจะถูกปั๊มเข้าสู่เครื่องยนต์เพื่อดูดซับความร้อน และไหลกลับเข้าสู่หม้อน้ำเพื่อถ่ายเทความร้อนออกสู่บรรยากาศภายนอก การระบายความร้อนนี้ช่วยลดอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นก่อนที่มันจะถูกหมุนกลับไปยังเครื่องยนต์ใหม่ และด้วยความที่เป็นระบบปิด หากท่านพบว่ามีน้ำหล่อเย็นหายไป หรือลดระดับลง นั้นก็หมายความว่า ระบบหล่อเย็นของรถอาจมีการรั่วซึมบางจุดก็เป็นได้

ประเภทของหม้อน้ำรถยนต์

1. หม้อน้ำทองแดงและทองเหลือง

   

   หม้อน้ำทองแดงและทองเหลืองเป็นประเภทดั้งเดิมที่พบในรถยนต์รุ่นเก่า เช่น ISUZU TFR หรือ MITSUBISHI CYCLONE (รถอายุประมาณ 20-30ปี+) มีการนำความร้อนที่ดีและระบายความร้อนได้เร็ว อย่างไรก็ตาม หม้อน้ำประเภทนี้มีน้ำหนักค่อนข้างมากและมีโอกาสเกิดการกัดกร่อนหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อีกทั้งวัสดุทองแดงยังมีราคาแพง จึงไม่พบเห็นหม้อน้ำชนิดนี้ในรถยนต์สมัยใหม่มากนัก

2. หม้อน้ำอลูมิเนียมฝาพลาสติก

   

   หม้อน้ำอลูมิเนียมเป็นที่นิยมในรถยนต์รุ่นใหม่ ประมาณช่วงปี ค.ศ.1996 ขึ้นไป รถแทบทุกรุ่นจะใช้หม้อน้ำอลูมิเนียมฝาพลาสติกทั้งหมด หากเราเปิดฝากระโปรงหน้ารถแทบทุกคันในสมัยนี้ จะสังเกตุเห็นฝาหม้อน้ำพลาสติกสีดำอยู่ด้านหน้าๆเสมอ เนื่องจากหม้อน้ำฝาพลาสติก มีราคาถูก มีน้ำหนักเบาและประสิทธิภาพในการระบายความร้อนดีมาก อีกทั้งอลูมิเนียมมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและสามารถรองรับการใช้งานในระยะยาวได้ดี ไม่เป็นสนิม หม้อน้ำอลูมิเนียมจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูงโดยไม่เพิ่มน้ำหนักมากให้กับรถ ในราคาประหยัด

3. หม้อน้ำอลูมิเนียมทั้งใบ (ฝามิเนียม)

   

   หม้อน้ำสมรรถนะสูงออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานหนักหรือเครื่องยนต์ที่มีการดัดแปลงเพิ่มพลังงานสูง ซึ่งต้องการการระบายความร้อนที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หม้อน้ำประเภทนี้มักทำจากวัสดุคุณภาพสูงและมีการออกแบบที่ช่วยเพิ่มการไหลของอากาศ เหมาะสำหรับรถที่ต้องการการระบายความร้อนอย่างเร่งด่วน เช่น รถแข่งหรือรถที่ใช้งานสมรรถนะสูง หม้อน้ำพลาสติกและอลูมิเนียมเป็นประเภทที่มีราคาคุ้มค่า มีแกนและฝาหม้อน้ำ ทำจากอลูมิเนียมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อน หม้อน้ำแบบนี้เป็นที่นิยมในตลาด เพราะสามารถตอบสนองการใช้งานพื้นฐานได้ดี และทนทานมากกว่า แต่ก็ตามมาด้วยราคาที่สูงกว่าเช่นกัน

รถไฟฟ้า (Electric Vehicle) ต้องใช้หม้อน้ำไหม ?

แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะมีระบบการทำงานที่แตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) แต่ชิ้นส่วนหลายชิ้นยังต้องการการระบบระบายความร้อนช่วย เช่น แบตเตอรี่ ระบบควบคุมกำลังไฟฟ้า (Inverter) และมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบเหล่านี้ทำงานที่อุณหภูมิสูง ด้วยไฟฟ้ากำลังสูงแบบ HV (High Voltage) จึงจำเป็นต้องมีการระบายความร้อนเพื่อป้องกันไม่ให้ร้อนเกินไป ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้าได้

ภาพตัวอย่างระบบหล่อเย็นในรถไฟฟ้า
โดยใช้น้ำยาหล่อเย็น และ ระบายความร้อนโดยใช้หม้อน้ำ

ประเภทของระบบระบายความร้อนในรถไฟฟ้า EV

• 1.ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ: ใช้การไหลเวียนของอากาศเพื่อระบายความร้อน ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า แต่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าการระบายความร้อนด้วยของเหลว เหมาะกับ EV ขนาดเล็กหรือมอเตอร์กำลังต่ำ
• 2.ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว: ระบบนี้ใช้ของเหลวหล่อเย็น (Coolant) ในการนำความร้อนออกจากแบตเตอรี่และมอเตอร์ และระบายความร้อนออกผ่านหม้อน้ำ (Radiator) ของเหลวจะถูกหมุนเวียนไปยังหม้อน้ำเพื่อถ่ายเทความร้อนออกสู่ภายนอก ซึ่งเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับ EV ที่ต้องการการระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว เช่น TESLA Model3 Model Y , BYD
• 3.ระบบระบายความร้อนแบบหล่อเย็นตรงแบตเตอรี่: บางรุ่นใช้แผ่นระบายความร้อนที่อยู่ระหว่างเซลล์แบตเตอรี่โดยตรง ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมอุณหภูมิของแบตเตอรี่โดยเฉพาะ

วิธีเลือกหม้อน้ำที่เหมาะสมสำหรับรถของคุณ

• ความเข้ากันได้กับรุ่นรถ (ต้องตรงรุ่น)

  การเลือกหม้อน้ำให้เหมาะสมกับรุ่นรถเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าหม้อน้ำที่เลือกเข้ากับยี่ห้อ รุ่น และขนาดเครื่องยนต์ของรถ เนื่องจากหม้อน้ำบางประเภทอาจมีขนาดหรือรูปร่างที่ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีอยู่ในรถยนต์ของคุณ แม้บางทีอาจจะใส่กันได้ แต่ความสามารถในการระบายความร้อนไม่เท่าเดิม (วิศวกรโรงงานรถยนต์ออกแบบมาแล้วดีที่สุด)

• วัสดุและความทนทาน

  ควรเลือกวัสดุของหม้อน้ำให้เหมาะกับการใช้งานและสภาพอากาศ โดยหม้อน้ำอลูมิเนียมจะทนต่อการกัดกร่อนได้ดีกว่าและมีน้ำหนักเบา ในขณะที่หม้อน้ำทองแดงและทองเหลืองอาจต้องการการบำรุงรักษามากกว่า แต่ให้ประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อนสูง

• ประสิทธิภาพและความจุในการระบายความร้อน

  ควรพิจารณาหม้อน้ำที่มีมาตรฐาน มียี่ห้อ เชื่อถือได้ เนื่องจากหม้อน้ำต้องมีสเปคที่ถูกต้องเหมือนของเดิม มีความสามารถระบายความร้อนให้แก่เครื่องยนต์ได้อย่างเหมาะสม ทำให้เครื่องไม่ร้อน หรือ ไม่เย็น จนเกินไป การใช้หม้อน้ำที่ไม่ได้มาตรฐานมีส่วนอย่างมากที่จะทำให้เครื่องยนต์ Overheat และพังได้

• สภาพอากาศและสภาพการขับขี่

  ในสภาพอากาศร้อนจัดหรือมีการขับขี่ที่ใช้แรงสูง เช่น การลากจูง การเค้นกำลังเครื่องยนต์สูงกว่าการขับขี่ปกติทั่วไป ควรเลือกหม้อน้ำอลูมิเนียมทั้งใบ ที่ทนแรงดันได้สูงกว่า ที่มีการระบายความร้อนสูงเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

สัญญาณที่บ่งบอกว่าหม้อน้ำรั่ว วิธีดูหม้อน้ำรั่ว

• ความร้อนขึ้น ไฟหน้าปัดโชว์

  การที่เครื่องยนต์มีปัญหาร้อนบ่อยครั้งอาจบ่งบอกถึงหม้อน้ำที่เสื่อมสภาพ มีการรั่วซึมตามตะเข็บต่างๆที่เราอาจมองไม่เห็น (ปกติรถทั่วไปจะหม้อน้ำรั่วซึ่มช่วงอายุประมาณ 10ปีขึ้นไป) หากหม้อน้ำไม่สามารถระบายความร้อนได้เพียงพอจะทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด และอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ชิ้นส่วนอื่น ๆตามมาด้วย

• การรั่วและการกัดกร่อน

  

  การรั่วของน้ำหล่อเย็นหรือการเกิดสนิมในหม้อน้ำสามารถเป็นสัญญาณของการเสื่อมสภาพ ให้สังเกตุในห้องเครื่องว่ามีคราบน้ำหล่อเย็นหรือไม่ โดยปกติแล้ว น้ำหล่อเย็น (Coolant) จะมีสีที่เด่นชัด เช่น สีชมพู สีเชียว หรือสีฟ้า หากพบร่องรอยของการรั่วหรือน้ำหล่อเย็น ควรตรวจสอบและพิจารณาเปลี่ยนหม้อน้ำ และตรวจสอบท่อยางที่เชื่อมต่อกันในระบบหล่อเย็นด้วย

  

  น้ำหม้อน้ำ หรือ ถังพักน้ำลดลงผิดปกติ

  ให้ตรวจเช็คปริมาณน้ำทั้งในหม้อน้ำ และ ถังกระป๋องพักน้ำ ว่ามีอาการน้ำหายหรือไม่ ถ้าหายไปให้ลองเติมน้ำหล่อเย็นเข้าไปใหม่ และตรวจสอบใหม่อีกครั้งใน 1-2อาทิตย์ หากน้ำยังลดหายอีก แสดงว่าระบบรั่ว หม้อน้ำอาจต้องเปลี่ยนใหม่

หม้อน้ำยี่ห้อไหนดี ? แนะนำหม้อน้ำ รับประกัน 1ปี

ในตลาดปัจจุบัน มีหม้อน้ำมากมายหลายยี่ห้อ การเลือกหม้อน้ำ ควรคำนึงถึงรุ่นของรถยนต์ การใช้งาน และการรับประกันจากผู้ผลิต เรามียี่ห้อมาตรฐานมาแนะนำดังนี้

• หม้อน้ำ 555DAIKI: เป็นหม้อน้ำพรีเมี่ยมที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพสูง มีความชำนาญสูงด้านการผลิตหม้อน้ำ ทั้งแบบทองแดง อลูมิเนียมฝาพลาสติก และแบบอลูมิเนียมทั้งใบ ทนทานต่อการกัดกร่อน มีการรับประกันยาวนาน 1ปี เหมาะกับทั้งรถบ้านและรถสมรรถนะสูง

• หม้อน้ำ DENSO: มีชื่อเสียงยาวนานในการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่โตโยต้า เป็นหม้อน้ำจากญี่ปุ่นที่มีคุณภาพสูง มีความทนทานและประสิทธิภาพดีในการระบายความร้อน เหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อนจัด มีการรับประกันสินค้า 3-6เดือน ขึ้นอยู่กับผู้แทนจำหน่าย *ข้อสังเกตุ ในประเทศไทย จะถูกแบ่ง 2ยี่ห้อ คือ DENSO และ DENSO Coolgear ต่างกันตรงที่ DENSO เป็นแบรนชั้นบน คุณภาพสูง ราคาสูง แต่ Coolgear จะเป็นแบรนตีตลาดระดับล่าง เน้นที่ราคาประหยัด

• หม้อน้ำ AISIN: ขึ้นชื่อเรื่องการใช้งานยาวนานและเป็นที่นิยมในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น มาตรฐานสูง มีการออกแบบที่เน้นการกระจายความร้อนได้ดี และมีประสิทธิภาพในการใช้งานสูง แต่ไม่มีการรับประกันสินค้า และไม่ค่อยมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย

• หม้อน้ำ Koyorad: เหมาะสำหรับรถสมรรถนะสูง มีประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดี ทำจากอลูมิเนียมเน้นความเบาและการใช้งานยาวนาน เหมาะกับผู้ที่ใช้รถในสภาพอากาศร้อน มีการรับประกันสินค้า หม้อน้ำยี่ห้อนี้ นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น

• หม้อน้ำ Mishimoto: เหมาะสำหรับรถสมรรถนะสูง มีประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดี แบรนนิยมในหมู่รถแต่งประเทศอเมริกา

ตัวอย่างราคาหม้อน้ำ 555DAIKI

การติดตั้งหม้อน้ำ

การติดตั้งหม้อน้ำรถยนต์เป็นงานที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อให้มั่นใจว่าหม้อน้ำทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ค่าแรงช่าง ในการติดตั้งหม้อน้ำ

การติดตั้งหม้อน้ำใหม่ในรถยนต์เป็นงานที่ต้องใช้ความชำนาญและความละเอียด เพื่อให้ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่รั่วไหล โดยทั่วไป ค่าแรงช่างในการติดตั้งหม้อน้ำจะเริ่มต้นที่ประมาณ 800-1,500 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของรถยนต์และความซับซ้อนของงาน

ปัจจัยที่มีผลต่อค่าแรงติดตั้งหม้อน้ำ

1. รุ่นและประเภทของรถ: รถบางรุ่นอาจต้องการเครื่องมือพิเศษในการถอดและติดตั้ง ทำให้ค่าแรงสูงขึ้น
2. สภาพของท่อน้ำและอุปกรณ์อื่น ๆ: หากชิ้นส่วนอื่นๆ มีสภาพชำรุดหรือหลวมอาจต้องเปลี่ยนใหม่ ทำให้เพิ่มเวลาและค่าใช้จ่าย
3. ประสบการณ์และฝีมือช่าง: ช่างที่มีประสบการณ์มากมักจะคิดค่าแรงที่สูงกว่า เนื่องจากสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

การติดตั้งหม้อน้ำที่ดีจะช่วยป้องกันความร้อนสะสมในเครื่องยนต์และยืดอายุการใช้งานของรถ ดังนั้น การลงทุนในค่าแรงช่างที่มีฝีมือย่อมคุ้มค่าในระยะยาว

วิธีการเปลี่ยนหม้อน้ำด้วยตัวเอง (DIY)

1. เตรียมอุปกรณ์และหม้อน้ำใหม่ตรวจสอบว่าหม้อน้ำที่ซื้อมานั้นตรงกับรุ่นของรถที่ต้องการติดตั้ง เตรียมเครื่องมือ เช่น ประแจ ไขควง ถุงมือ และถาดรองรับน้ำหล่อเย็น
2. ถ่ายน้ำหล่อเย็นออกจากหม้อน้ำเก่า วางถาดไว้ใต้รถตรงตำแหน่งหม้อน้ำ เปิดฝาหม้อน้ำและวาล์วน้ำหล่อเย็น เพื่อปล่อยน้ำออกจนหมด ระวังอย่าให้หกเลอะเทอะ และควรใส่ถุงมือเพื่อป้องกันสารเคมีในน้ำหล่อเย็น
3. ถอดหม้อน้ำเก่าออก เริ่มจากการถอดท่อหม้อน้ำที่ต่อเข้ากับหม้อน้ำ (ทั้งท่อบนและล่าง) โดยคลายแคลมป์ที่ยึดท่อไว้ ถอดสายไฟที่ต่อกับเซนเซอร์และพัดลมหม้อน้ำ และถอดพัดลมออกจากหม้อน้ำ (หากติดอยู่ที่ตัวหม้อน้ำ)
4. ติดตั้งหม้อน้ำใหม่ นำหม้อน้ำใหม่เข้าไปแทนที่ตำแหน่งเดิมของหม้อน้ำเก่า ติดตั้งท่อหม้อน้ำกลับเข้าที่เดิม โดยยึดแคลมป์ให้แน่น และต่อสายไฟเซนเซอร์และพัดลมให้เรียบร้อย ตรวจสอบว่าหม้อน้ำติดตั้งอย่างมั่นคง ไม่มีการขยับหลุด
5. เติมน้ำหล่อเย็นใหม่ เติมน้ำหล่อเย็นใหม่เข้าไปในหม้อน้ำให้เต็ม และปิดฝาหม้อน้ำให้แน่น เปิดฝากระโปรงและสตาร์ทรถ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานและน้ำหล่อเย็นไหลเวียน ตรวจสอบการไหลเวียนและดูว่าไม่มีการรั่วซึม
6. ตรวจสอบและทดสอบการทำงาน สังเกตอุณหภูมิของเครื่องยนต์และความร้อนของหม้อน้ำ หากไม่มีปัญหาแสดงว่าหม้อน้ำทำงานได้ดี ทดสอบโดยการขับขี่ระยะสั้น ๆ เพื่อดูว่าเครื่องยนต์สามารถรักษาระดับความร้อนได้ปกติและไม่มีรอยรั่ว

ข้อควรระวังในการติดตั้งหม้อน้ำ

1. ต้องใช้ฝาหม้อน้ำที่มีมาตรฐาน รับแรงดัน 0.9-1.3 BAR (ไม่ควรใช้ฝาที่ทนแรงดันสูงเกินมาตรฐาน เพราะอาจทำให้หม้อน้ำระเบิดได้)
2. ต้องเลือกใช้หม้อน้ำให้ถูกต้องกับรุ่นรถ และ ห้ามดัดแปลงหม้อน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน
3. หลังติดตั้ง ให้ทดสอบการรั่วซึ่มก่อน โดยการติดเครื่องไว้ 3-10นาที เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการทำงานของระบบหล่อเย็น และ ตรวจสอบระดับน้ำหม้อน้ำอีกครั้งหลังผ่าน ไป 1สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการรั่วไหล

© 2024 CNC789.com All Rights Reserved.
CHOAKNUMCHAI AUTOPARTS 789 CO., LTD.